เที่ยวไทย สกู๊ปพิเศษ พาเที่ยวชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ปี 2554 :
ตอนที่ 1
ในตอนนี้เที่ยวไทยจะพาไปรู้จักประวัติความเป็นของว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไรและจะได้สัมพัสกับความยิ่งใหญ่ของขบวนเรือในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นี้
Teawthai: Scoop takes a special train to visit troops on the ocean in 2554 :Part 1
Now take teawthai from March to the parade in the history of the sea, resulting from, or if the signal sequence was white, with the splendor of the convoy, on the occasion of the anniversary of 7-84 years of good omen His Majesty in this December 5, 2554
เที่ยวไทยพาไปรู้จักความเป็นมาการเสด็จพระราชดำเนินโดย
กระบวนพยุหยาตราชลมารค
การเสด็จพระราชดำเนินของพระมหากษัตริย์ไทยนับแต่โบราณกาลมา นอกจากการเสด็จพระราชดำเนินทางบก ที่เรียกว่า "พยุหยาตราสถลมารค" แล้ว การเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ คือ พยุหยาตราชลมารค" ก็เป็นเส้นทางการคมนาคมที่สำคัญยิ่งเช่นกัน ตั้งแต่ครั้งสมัยสุโขทัยเป็น ราชธานีของไทยเรา ปรากฏว่าพระร่วงทรงเรือออกไปลอยกระทงหรือพิธีจองเปรียง ณ กลางสระกลางน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามเพ็ญเดือนสิบสอง ต่อมาสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีซึ่งเป็นเมืองเกาะล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำลำคลองมากมายหลายสาย ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรุงเก่าจึงต้องอาศัยเรือ ในการสัญจรไปมา รวมทั้งในเวลารบทัพจับศึกก็จะใช้กระบวนทัพเรือเป็นสำคัญ จึงปรากฏว่ามีการสร้างเรือรบมากมายในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ในเวลาบ้านเมืองปราศจากศึกสงครามได้ใช้เรือรบฝึกซ้อมกระบวนยุทธ์กันเป็นนิจ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงฤดูน้ำหลากอันเป็นเวลาที่ราษฎรว่างจากการทำนา จึงเรียกระดมพลมาฝึกซ้อมกระบวนทัพเรือโดยอาศัยฤดูกาลประจวบกับเป็นช่วงของประเพณีการทอดกฐิน พระเจ้าแผนดินจึง เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนเรือรบแห่แหน เพื่อให้ไพรพลได้รื่นเริงในการกุศล จึงจัดเป็นประเพณีที่แห่เสด็จกฐิน
นอกจากนั้นกระบวนพยุหยาตราชลมารคในอดีต ยังได้จัดในคราวที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ ทั้งส่วนพระองค์และที่เป็นพระราชพิธีตลอดจนโอกาสสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการรอยพระพุทธบาท การอัญเชิญ พระพุทธรูปที่สำคัญจากหัวเมืองเข้าประดิษฐานในเมืองหลวง การต้อนรับทูตต่างประเทศ เป็นต้น
สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคมาแล้วจำนวน 14 ครั้ง
Teawthai go through a process known as the troops of the sea.
The Royal Thai kings in the ancient past. In addition to the real earth called "Stlmarc troops" and then go to Mars in sea water ", it is very important transport route. Since the Sukhothai period. Of the Thai capital. Ruang the ship or go to the pool water at a ceremony Hagepriyong. pen the candle burns for 12 months. later, it was the era of Ayutthaya, an island city surrounded by numerous rivers. the life of the citizens of a new boat. traffic in both directions. and it would take an army in the war start is important. it seems that a warship in the Ayutthaya period.
In a country free from warships in the training process is the eternal struggle. So when the rainy season, when the people of Agriculture. The rally was supported by the Naval Training whistle during the season, which coincides with a series of traditional Kathin. God is the ground floor. Take the fun fabrics offered by the parade process the Task Force so I have fun with private charity. The parade is a tradition, fun.
It is a sea of troops in the past. It was once the rule of the real world. He and the royal ceremonial occasions, as well as the royal coronation. Go to worship the imprint of the Buddha housed in the shrine outside the main cities. Welcome foreign diplomats and so on.
During the reign of King Rama VI. The deployment of troops into the sea 14 times.
เที่ยวไทยพาศึกษาประวัติเรือพระที่นั่ง
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งโปรดให้สร้างแทนลำเดิมมีนามว่า ศรีสุพรรณหงส์ ซึ่งสร้างในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 โขนเรือเป็นรูปหงส์ ลงรักปิดทองประดับกระจก พื้นเรือสีดำน้ำหนัก 15.6 ตัน กว้าง 3.15 เมตร ยาว 44.70 เมตร ลึก 0.90 เมตร กินน้ำลึก 0.41 เมตร ฝีพาย 50 นาย นายท้าย 2 นาย นายเรือ 2 นาย พายที่ใช้เป็นพายทอง พลพายจะพายในท่านกบิน และถือเป็นธรรมเนียมว่าถ้าจะเปลี่ยนท่าพายธรรมดาจะต้องรับพระบรมราชานุญาตเสียก่อน
เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช
เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ลำปัจจุบันเป็นเรือที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แทนลำเดิมซึ่งสร้างในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โขนเรือปิดทองประดับกระจก เป็นรูปพญานาค 7 เศียร พื้นเรือ สีเขียว น้ำหนัก 15.36 ตัน กว้าง 2.95 เมตร ยาว 42.95 เมตร ลึก 0.76 เมตร กินน้ำลึก 0.31 เมตร ฝีพาย 54 นาย นายท้าย 2 นาย
เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หัวเรือจำหลักปิดทองเป็นรูปพญานาคเล็กๆ จำนวนมาก พื้นเรือสีชมพู น้ำหนัก 7.7 ตัน กว้าง 3.15 เมตร ยาว 45.40 เมตร ลึก 1.11 เมตร กินน้ำลึก 1.46 เมตร ฝีพาย 61 นาย นายเรือ 2 นาย นายท้าย 2 นาย
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เป็นเรือพระที่นั่งจัดสร้างขึ้นใหม่ ในรัชกาลปัจจุบัน มีโขนเรือเป็นรูปนารายณ์ทรงสุบรรณ ซึ่งนำต้นแบบมาจากเรือนารายณ์ทรงสุบรรณ ลำเดิมที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 และ รัชกาลที่ 4
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 นี้ กองทัพเรือ ร่วมกับ กรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง ได้ดำเนินการจัดสร้าง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน วโรกาสพระราชพิธีในปีกาญจนาภิเษก มีฐานะเป็นเรือพระที่นั่งรอง ทอดบัลลังก์กัญญา เทียบเท่า เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ พื้นเรือสีแดงชาด น้ำหนัก 20 ตัน กว้าง 3.20 เมตร ยาว 44.30 เมตร ลึก 1.10 เมตร ฝีพายจำนวน 50 นาย นายท้าย 2 นาย (เพื่อให้สอดคล้องกับ วโรกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)
Power Barge Teawthai history.
Barge Suphannahong.
Barge Suphannahong. Built in the reign of King Rama Rama 6, please create a body was called. Suphan swan was under the reign of King Rama Rama built the ship is a video of a swan. Gold leaf and decorated glass. The black boat weighs 15.6 tonnes, a length of 44.70 meters 3.15 meters 0.41 meters, 0.90 meters draft M. Naitgai Waterman 50 2 2 Mr. Pine said the captain of the paddle paddle paddle me gold in the air. Often, when I paddle to change to get royal permission.
Onantnac Royal Barge.
Onantnac Royal Barge. The ship was built during the reign of His Majesty. Rama Rama 6, the plane was in the reign of King Rama 4, Khon boats built and decorated gilt mirrors. 7 Dragon Boat is a green weight of 15.36 tons, 2.95 meters long, 42.95 meters wide and 0.76 m Draught 0.31 m 54 paddlers, said second Naitgai
Barge Puchgcs multinationals.
Barge Puchgcs multinationals. The ship was built during the reign of His Majesty. The reign of King Rama V, the five heads carved and gilded hull width, a small number of ground pink dragon boat length, 3.15 meters and weighs 7.7 tons, 45.40 m deep, 1.11 meters , 1.46 m Draft 61 paddlers, said Captain Lord Naitgai February 2 MR.
Barge Narai Song Suban King Rama 9
Barge Narai Song Suban King Rama 9 Royal Navy has a new Lord Vishnu has a boat Khon Suban Th. What is the master of his art Suban Vishnu. Originally built during the reign of King Rama 3 and 4.
Barge Narai Song Suban King Rama 9, the Navy, in collaboration with the Department of Fine Arts and the Council. It has been established. For the King Bhumibol Adulyadej on the occasion of the ceremony at the camp, Kanchana. The Royal Navy as a vice. Royal Crown Fried Onantnac Barge Kanya meeting. Barge and multi-national Puchgcs. The boat weighs 20 tons of red cinnabar 3.20 meters long, 44.30 meters wide and 1.10 meters deep, for a total of 50 paddlers, said Naitgai 2 (at the time of '50 year anniversary of game king).
เที่ยวไทยพาศึกษาประวัติแห่เรือ
การเห่เรือ เป็นกิจกรรมที่ควบคู่มากับการเดินทางทางน้ำ จำแนกได้ 2 ประเภท คือ การเห่เรือในงานพระราชพิธี ที่เรียกว่า "การเห่เรือหลวง" และการเห่เรือสำหรับเที่ยวเตร่หรือในงาน พื้นบ้านที่เรียกว่า "เห่เรือเล่น" ปัจจุบันการเห่เรือเล่นลดความสำคัญลงไป คงมีแต่การเห่เรือหลวง ที่ดำรงอยู่และถือเป็นโบราณราชประเพณีที่ต้องรักษาไว้เป็นมรดกของชาติสืบต่อไปที่มาของการเห่เรือนั้น ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเป็นประเพณีของชนชาติต่าง ๆ หลากหลายชนชาติที่มีเรือพายใช้ เช่น อินเดีย จีน ญวน เป็นต้น ลักษณะที่พลพายจะขับร้องในเวลา พายเรือเพื่อให้เกิดความรื่นเริงในการเดินทาง และผ่อนคลายความเหนื่อยอ่อนลง
สำหรับการเห่เรือ ของไทยนั้น นอกจากจะให้ความรื่นเริงแล้วยังเป็นการให้จังหวะเพื่อให้พลพายพายพร้อมกัน โดยทำเป็นทำนองเห่เรือที่แตกต่างกัน 3 อย่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการให้พลพายพายช้าหรือเร็ว เช่น ในขณะเริ่มออกเรือขณะพายเรือตามน้ำ จะใช้ทำนอง ช้าลวะเห่ เมื่อเรือจวนถึงที่ประทับจะใช้ทำนอง สวะเห่ และถ้าต้องการให้พายหนักจังหวะเร็วจะใช้ทำนองมูลเห่ สำหรับคนเห่หรือที่เรียกว่าต้นบท ต้องเลือกคนที่มีเสียงดีและเสียงดังพอให้ได้ยินไปทั่วลำเรือ ส่วนบทเห่เรือนั้นนิยมประพันธ์เป็น ร้อยกรอง หรืออาจอยู่ในรูปของกลอนสด และมีอยู่หลายสำนวนด้วยกัน ในสมัยโบราณจะใช้บทใด ไม่ได้กล่าวไว้ แต่เป็นที่รู้จักกันดีและเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี ได้แก่ กาพย์ห่อโคลงของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ซึ่งนิพนธ์ไว้เมื่อตอนปลายกรุงศรีอยุธยา มี 2 เรื่อง เรื่องแรก ขึ้นต้นว่า "พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย" สันนิษฐานว่าทรงนิพนธ์สำหรับ เรือพระที่นั่งของพระองค์เอง เวลาตามขบวนเสด็จ ฯ
ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องพระยาครุฑลักนางกากี ซึ่งแต่เดิมคงใช้บทเห่เรือเรื่องนี้แต่เฉพาะเวลาทรงเรือประพาสที่ลับโดยลำพัง นอกจากนี้ยังมีบทเห่เรือ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ที่รู้จักในนามของ "กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน" ซึ่งเข้าใจกันว่าทรงพระราชนิพนธ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อชมสมเด็จพระศรี สุริเยนทราบรมราชชนนี ครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ ด้วยทรงแต่งเครื่องเสวยได้ไม่มีผู้ใดเสนอในสมัยนั้น ปัจจุบันแม้ว่าจะมีบทเห่เรือสำนวนใหม่ ๆ เกิดขึ้น แต่บทเห่เรือเหล่านั้นก็อาศัย หลักเกณฑ์ และรูปแบบของบทเห่เรือเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่
Take a boat parade Teawthai history.
Eheer An event by running, the water, has identified two types of Eheer in a ceremony called "The Royal Eheer a" and a Eheer for a loaf on the job. Folk called. "Eheer a game" The current Eheer should be less important. But I Eheer a. The existence and master an ancient tradition to preserve our national heritage, the source of A. It is not known Eheer is plotted. It is assumed that the traditions of different peoples and nations such as India, China Yuan boats, etc. so I paddle blades are made. Paddle for the joy of the journey. I relaxed and softened.
For a Eheer paddle, with the exception of Thailand and also a pleasure to paddle strokes to keep the troops at a time. It 'was like another Eheer 3 depends on the whim of cakes, pies, slow or fast, as we started sailing the boat under the water very slowly to calm LWA is the boat house at the time, it is as if the collapse Cross Lake want to paddle faster and harder it will use that information. Soothe known for the role. Must decide what good and strong enough to be heard throughout the ship. The author is a popular Eheer poetry or a form of improvisation. And there are many different expressions. In ancient times, to no one. It is not mentioned. And 'well-known and since the reign of the Chakri dynasty, of which 4 of the epic sea ice in Prince Thammathirat browser. The writing is the end of Ayutthaya, beginning with the first two questions, as the "King of the lakes in the country, the ship has been gloriously beautiful," the hypothesis that the literature on the throne of his own. 'S time has come by train.
The second part is her prince Garuda khaki in Luxembourg who have not used originally, but only if the ship Eheer a secret trip alone. There is also a song, while paddling the boat, the rights of the sky The king, known as the King according to "The sweet scent of a Eheer epic" His Majesty is understandable, since the reign of the first kings of Sri. Suri yen in the realm of the mother. It 'also a descendant of the king. I have had with anyone in the day to eat. Even if you created a new language Eheer Eheer an A, but by the rules and the format of an old Eheer still alive.
เที่ยวไทยพาชมเรือที่ใช้ในพระราชพิธี
Teawthai tourist boats used in the ceremony.
เที่ยวไทยพาชมการแต่งกายของผู้ทำหน้าที่ในขบวนเรือพระราชพิธี
มีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
เจ้าหน้าที่ฝีพายของเรือพระที่นั่ง จะใช้หมวกทรงประพาสสักหลาดสีแดงขลิบแถบลูกไม้ใบข้าว เสื้อเป็นสักหลาดสีแดงขลิบลูกไม้ใบข้าวเช่นเดียวกัน ส่วนกางเกงเป็นผ้าสีดำ ใช้ผ้ารูเซีย หรือผ้าเสิร์จ แต่ฝีพายของเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช นั้น จะต่างออกไปคือ เสื้อจะเปลี่ยนจากขลิบลูกไม้ใบข้าวเป็นขลิบเหลือง ส่วนอย่างอื่นเหมือนเดิมทุกอย่าง
นายเรือพระที่นั่งของเรือสุพรรณหงส์จะแต่งกายแตกต่างจากนายเรือลำต่าง ๆ คือ จะสวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว เสื้ออัตลัดสีฟ้า รัดประคด ส่วนผู้ควบคุมเรือพระที่นั่งจะแต่งกายโดยใช้หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว เสื้อโหมดเทศสีแดงสด ผ้าเกี้ยวลาย นอกจากนั้นจะเป็นกรมวังคู่หน้า คู่หลัง ใส่หมวกทรงประพาสสีน้ำเงินยอดเกี้ยว เสื้อนอกขาวแบบราชการ ผ้าม่วงเชิง
คนธงท้ายเรือพระที่นั่งซึ่งอยู่ท้ายเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ รวม 4 นาย จะแต่งกายด้วยหมวกทรงประพาส โหมดเทศยอดจุก เสื้ออัตลัดสีแดง ผ้าเกี้ยวลาย ชุดของคนธงท้ายเรือรูปสัตว์ จะใส่หมวกหูกระต่ายสีแดง เสื้อเข้มขาบไหม ผ้าเกี้ยวลาย รัดประคดโหมดเทศ
ฝีพายเรือรูปสัตว์จะใส่หมวกสังกะสีลายยันต์สีแดง เสื้อเสนากุฎมีลวดลายจีนเป็นหน้าขบ
นายท้ายเรือที่มีอยู่ลำละ 2 นาย รวมแล้ว 104 นาย จะใช้ชุดเหมือนกันหมด คือ ใช้หมวกทรงประพาส โหมดเทศยอดเกี้ยว เสื้ออัตลัดสีเขียว รัดประคดโหมดเทศ ผ้าเกี้ยวลาย
สำหรับชุดที่แพงสุด คือ ชุดของผู้บัญชาการเรือ ต้องสั่งผ้าเยียรบับจากประเทศอินเดีย การตัดต้องใช้ฝีมือมาก ต้องวัดตัว ตัดรูปแบบเสื้อสูทสากล ไม่มีลวดลายอื่น
เสื้อเสนากุฎของฝีพายเรือรูปสัตว์ต้องทำบล็อคแล้วก็พิมพ์ขึ้นมาเพราะมีหลายสี เวลาพิมพ์ต้องพิมพ์ทีละสี มีสีแดง สีดำ สีผ้าอาจจะไม่เหมือนของเดิมนัก แต่ก็พยายามให้คงเดิมมากที่สุด
ชุดของคนให้สัญญาณเรือรูปสัตว์จะใช้ผ้าไหมจีนตัดเย็บ มีลวดลายเป็นดอกซากุระ ซึ่งหากจะให้ใช้ผ้าที่มีลวดลายเป็นดอกซากุระแบบเดิมก็หายากแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ขนาดของดอกจะไม่เท่ากับของเก่า แต่ก็พยายามหาให้ใกล้เคียงของเดิม
Teawthai visit is served by the Royal Barge Procession association characterized as follows.
Waterman royal official Trgprapas yachts felt hat with red lace, leaves, rice is grown. Peak is cut, red flannel shirt, like rice. Blacks pants, a cotton cloth or cotton Esirsh High Sierra. The rowers of the Royal Barge Onantnac is different. It turns out that the accents of lace blouse cut the yellow rice. Otherwise, all the same.
Suphannahong Royal Navy ship to dress differently than the other boat wearing a hat in court Trgprapas Atlad Ohmdets shirt, blue belt of the Royal Navy is a hat Ohmdets Trgprapas Court Ohmdets red shirt striped dress that Chamberlain gaekigiw Trgprapas forward with a sedan blue hat. White cotton jacket with purple-oriented government.
The royal flag at the end of the barge and four planes, including four to be wearing a hat Trgprapas presumably. Ohmdets in Cork. Atlad red shirt with stripes gaekigiw the flagship of the animal. Put Hmwkhokrateai red. Ekgmkabahm scarf striped shirt Ohmdets gaekigiw.
Boat paddlers wear a hat, zinc, animal tattoo designs in red. Esnaku plastron reasons, China is to find out.
Naitgai boat with 104 aircraft per second, then said he would use the same game is Trgprapas hat. Ohmdets Court Atlad green shirt. Ohmdets gaekigiw striped scarf.
The most expensive suite is a collection of command of the ship. Order Eiiirbab fabric of India. The cut must be custom tailored format tailored to be international. No other models.
All canoeists Esnaku ship animals to stop, then press because it has a variety of colors. Print time for each color can be printed, red, black, fabric, and maybe not the same thing. I try the original as possible.
The boat brought the animal to use Chinese silk fabrics signal. The pattern of cherry blossoms. If the fabric with cherry blossoms and traditional models, it is difficult to find. Now that the flowers are not the same as the old one. I am looking for, similar to the 'original.
ตอนที่ 2 เที่ยวไทยจะพาไปดูกำหนดการการฝึกซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
Part 2 Teawthai will take to schedule a training march in procession to the ocean.